Not known Facts About สงครามการค้า
จีนขู่ว่าจะตอบโต้ด้วยการเพิ่มอัตราภาษีสำหรับการส่งออกของสหรัฐฯ หกหมื่นล้านดอลลาร์สวนทางกับยุโรป ที่สามารถส่งออกสินค้ามายังสหรัฐฯ
ทำเนียบขาวระบุว่า พบการปฏิบัติที่ “ไม่เป็นธรรม” หลายประการของจีน รวมถึงกฎหมายห้ามต่างชาติครอบครองกิจการ นั้นหมายความว่า นักลงทุนต่างชาติที่ต้องการเข้าไปลงทุนในจีนจะต้องมีคนจีนเป็นหุ้นส่วนร่วมด้วย ซึ่งมีผลกดดันให้หลายบริษัทต่างชาติต้องยอมถ่ายโอนเทคโนโลยีให้ เพื่อให้สินค้านั้นเข้าสู่ตลาดจีนได้
คำบรรยายภาพ, ในขณะที่เจ้าหน้าที่การค้าจีนเดินทางไปเจนีวา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง อยู่ที่กรุงมอสโก เพื่อพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย
โลกทัศน์ของทรัมป์ตั้งอยู่บนลัทธิพาณิชย์นิยมฉบับกระด้าง นักเศรษฐศาสตร์คนไหนก็ตามที่พยายามพูดเรื่องการค้าระหว่างประเทศกับคนที่ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ต่างรู้ดีว่า ลัทธิพาณิชย์นิยมฉบับกระด้างนั้นโดนใจคนหมู่มาก มันคือความคิดที่ว่าเราชนะเมื่อชาวต่างชาติซื้อของของเรา และเราแพ้เมื่อเราซื้อของของพวกเขา ความคิดนี้ดูเป็นสามัญสำนึกสำหรับคนจำนวนมาก เช่นเดียวกับความคิดที่ว่า เราขาดดุลการค้าเพราะประเทศอื่นต้องเล่นไม่ซื่อกับเราแน่ๆ พวกเขาต้องฉวยโอกาสจากคำมั่นสัญญาที่ไร้เดียงสาของเราต่อการค้าเสรีชัวร์ๆ
ถึงตรงนี้ ก็เรียกได้ว่า เศรษฐกิจไทยกับเศรษฐกิจโลก
หน้าสำหรับผู้แก้ไขที่ออกจากระบบ เรียนรู้เพิ่มเติม คุย
สงครามการค้าเกิดขึ้นเมื่อประเทศต่าง ๆ ใช้มาตรการกีดกันทางการค้า เช่น การขึ้นภาษีนำเข้า หรือการจำกัดการนำเข้าสินค้าจากประเทศคู่ค้า เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในโลกของเรา
บทความเกี่ยวกับ เศรษฐศาสตร์ ที่ยังไม่สมบูรณ์
ไนเจอร์สอบสวนการส่งออกหินดาวอังคาร หลังถูกประมูลหลายล้านในนครนิวยอร์ก
จีนขึ้นภาษีพลังงาน-เครื่องจักรสหรัฐฯ ตอบโต้มาตรการทรัมป์
หัวหน้าทิพย์ ออฟฟิศทิพย์ แต่จ่ายเงินจริง เทรนด์ใหม่หนุ่มสาวจีนแสร้งทำงานเพื่อลดแรงกดดันจากสังคม
We also use 3rd-celebration cookies that help us evaluate and know how you use this Internet site. These cookies will be stored as part of your browser only using สงครามการค้า your consent. You even have the choice to opt-out of those cookies. But opting away from Some cookies might have an impact on your searching encounter.
สงครามการค้าคือ การที่ประเทศหนึ่งเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นหรือกำหนดโควต้าการนำเข้าของสินค้าแต่ละประเทศ โดยทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจและต่างตอบโต้กันด้วยรูปแบบที่คล้ายคลึงกับการปกป้องการค้า และเมื่อความรุนแรงที่ปะทะกันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ความบาดหมางก็จะแปรเปลี่ยนเป็นสงครามการลดการค้าระหว่างประเทศ